Trendy Review ครั้งนี้ มาพบกับสมาร์ทโฟนเฮาส์แบรนด์ชื่อดังจากค่าย i-mobile ถือเป็นค่ายที่ออกรุ่นใหม่ ๆ มาได้เยอะมาก ๆ ไม่แพ้ Samsung เลย และมีหลากหลายขนาดหน้าจอไม่แพ้กัน ตัวนี้ที่ผมกำลังจะรีวิวอยู่นี่ เป็นรุ่น IQ9.1 สมาร์ทโฟนขนาดหน้าจอ 5.7 นิ้วครับ เป็นตัว Minor change จาก i-mobile IQ9...
i-mobile นี่ถือเป็นค่ายที่ออกรุ่นใหม่ ๆ มาได้เยอะมาก ๆ ไม่แพ้ Samsung เลยครับ ... จริง ๆ ต้องบอกว่า เผลอ ๆ i-mobile นี่ออกรุ่นใหม่มาถี่กว่า Samsung ซะอีกด้วย และมีหลากหลายขนาดหน้าจอไม่แพ้กันเลย และตัวนี้ที่ผมกำลังจะรีวิวอยู่นี่ เป็นรุ่น IQ9.1 ครับ แต่อย่าเพิ่งตกใจคิดว่ามันจะเป็น Android tablet ขนาดหน้าจอ 9 นิ้วล่ะ เจ้านี่เป็น Phablet (หรือก็คือ Android smartphone ที่หน้าจอใหญ่กว่า 5 นิ้ว) ขนาดหน้าจอ 5.7 นิ้วครับ เป็นตัว Minor change จาก i-mobile IQ9 ครับ
ดีไซน์ของ i-mobile IQ9.1 ด้วยความที่เป็น OEM แบบ House brand ปกติแล้ว การออกแบบของ i-mobile จึงมักจะให้ความรู้สึกคล้ายกับแบรนด์ใหญ่ ๆ บางแบรนด์ เช่น บางรุ่นก็ไปคล้ายกับ Samsung บางรุ่นก็ไปคล้ายกับ iPhone 5 แต่เจ้า i-mobile IQ9.1 นี่ จับปุ๊บรู้สึกได้เลยว่า ดีไซน์มันให้ความรู้สึกของ HTC ในยุคซักปีก่อน แต่ไม่ถึงกับเหมือน 100% นะ
i-mobile IQ9.1 ด้านหน้า
ด้านหน้า เป็นหน้าจอ IPS LCD ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด HD 1280x720 พิกเซล มีความหนาแน่นพิกเซล 257.65ppi พร้อมเซ็นเซอร์หลายตัวทีเดียว ไม่น่าแปลกใจ เพราะเจ้านี่มีโฆษณาเอาไว้ว่าสั่งงานด้วย Smart gesture ได้ น่ะ ... นอกจากนี้ก็มีไฟ LED แสดงสถานะ มีกล้องดิจิตอลด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซลด้วย
i-mobile IQ9.1 ด้านหลัง
แกะฝาหลังด้านบนของ i-mobile IQ9.1 ออกมาเป็นแบบนี้
ด้านหลัง ลักษณะคล้ายเป็นโลหะ แต่จริง ๆ คือพลาสติกนะครับ แค่เคลือบสีโลหะเท่านั้นเอง มีกล้องดิจิตอลที่ทาง i-mobile จะแปะว่าเป็น 18 ล้านพิกเซล (ตามความสามารถในการถ่ายของซอฟต์แวร์) พร้อม LED Flash แล้วก็มีไมโครโฟนเล็ก ๆ อยู่ใกล้ ๆ เพื่อทำ Active noise cancellation ด้วย นอกจากนี้ตรงด้านข้างก็จะมีขั้วต่อเหมือนจะเชื่อมกับ Docking ได้ และมีลำโพงอยู่ด้านล่าง
i-mobile IQ9.1 ด้านบน
ด้านบน ไม่มีอะไรมาก มีแค่ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. กับร่องเล็ก ๆ เอาไว้แกะด้านบนออกมาได้ (รุ่นนี้แกะฝาหลังเปลี่ยนแบตเตอรี่ไม่ได้นะครับ) ซึ่งจะเห็นสล็อตใส่ SIM card แต่ไม่มีให้ใส่ MicroSD card นะครับ
i-mobile IQ9.1 ด้านล่าง
ด้านล่าง มีแค่รูไมโครโฟนสำหรับสนทนา และพอร์ต Micro USB เอาไว้ชาร์จแบตเตอรี่และเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์
i-mobile IQ9.1 ด้านซ้าย
ด้านซ้าย มีแค่ปุ่มปรับระดับเสียง
i-mobile IQ9.1 ด้านขวา
ด้านขวา มีแค่ปุ่มเปิดปิดหน้าจอ ตัวฟีเจอร์ Smart gesture นี่คงอารมณ์คล้ายๆ กับที่ Samsung เขาเปิดตัวพร้อมๆ กับ Samsung Galaxy S4 (และใช้บน Samsung Galaxy Note 3 ด้วย) เดี๋ยวตอนรีวิวการใช้งาน ค่อยมาว่ากัน ... โดยภาพรวมการดีไซน์ถือว่าทำได้ดีทีเดียวนะครับ การประกอบ เนื้องาน ดูดีทีเดียว ถ้าไม่บอกว่าเป็น i-mobile ก็ไม่รู้หรอก (ฮา)
สเปกและประสิทธิภาพของ i-mobile IQ9.1 พวกรุ่นใหม่ๆ ราคาเฉียดหมื่น ของ i-mobile เดี๋ยวนี้ นิยมใช้หน่วยประมวลผลระดับ Quad-core ครับ เป็น MTK6589T ที่ให้ประสิทธิภาพค่อนข้างจะ OK แต่มีสนนราคาที่ประหยัด และแน่นอน i-mobile แบ่งรุ่นสำหรับขายออกเป็นรุ่นปกติ กับรุ่นห้อยท้ายด้วย A สำหรับใช้กับ 3G ของ dtac/TrueMove H และ AIS ตามลำดับ แต่ในยุค 3G 2100MHz เต็มตัวแล้ว จะรุ่นไหนก็ไม่มีปัญหานะ • CPU: MTK6589T Quad-core 1.2GHz • GPU: PowerVR SGX544MP • Display: IPS LCD 5.7 นิ้ว ความละเอียด 1280x720 พิกเซล (257.65ppi) รองรับการสัมผัสพร้อมกัน 10 จุด • RAM: 1GB • Internal storage: 16GB • External storage: ไม่รองรับ • Operating System: Android 4.2.1 • Connectivity o 2G: 900/1800MHz ทั้งรุ่น IQ9.1 และ IQ9.1A o 3G: 850/2100MHz สำหรับรุ่น IQ9.1 และ 900/2100MHz สำหรับรุ่น IQ9.1A o 4G: ไม่รองรับ o WiFi: 802.11b/g/n o Bluetooth: 4.0 o NFC: ไม่มี • Camera: ด้านหน้า 5 ล้านพิกเซล ด้านหลัง 18 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash (เซ็นเซอร์ 13 ล้านพิกเซล ซอฟต์แวร์อัพให้ถ่ายได้ 18 ล้านพิกเซล) • Battery: 2,600mAh • Dimensions: 161 มม. x 82.5 มม. x 9.3 มม. • Weight: 191 กรัม
จุดเด่นของเจ้านี่ ก็ค่อนข้างจะชัดเจนครับ หน้าจอความละเอียด HD ขนาด 5.7 นิ้ว ใหญ่เบิ้มเอาเรื่อง นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องของกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซลที่มีไม่กี่แบรนด์หรอกครับ ที่จัดหนักจัดเต็มแบบนี้มาให้ แต่ที่ยังแอบคาใจก็กล้องหลังนี่แหละ เซ็นเซอร์ขนาด 13 ล้านพิกเซล แต่ i-mobile พยายามสร้างจุดเด่นด้วยการใช้ซอฟต์แวร์ อัดให้สามารถถ่ายได้ที่ 18 ล้านพิกเซลแทน ซึ่งผมมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นเอาอย่างแรง เพราะลำพัง 13 ล้านพิกเซลแท้ ๆ ถ้าเซ็นเซอร์คุณภาพดี มันก็เหลือเฟือสำหรับใช้งานทั่ว ๆ ไปแล้ว และผมไม่ชอบกับการที่มาโปรโมตว่าเป็น 18 ล้านพิกเซล ทั้ง ๆ ที่ตัวเซ็นเซอร์จริง ๆ มัน Effective แค่ 13 ล้านพิกเซลด้วย (ผมต้องเขียนบ่นแบบนี้ เพราะเคยคุยกับทาง i-mobile แล้ว ว่าเป็นสิ่งไม่ควรโปรโมต แต่เมื่อยังจะโปรโมต ผมก็ต้องขอบ่นครับ)
บ่นพอแล้ว ทีนี้มาดูประสิทธิภาพในการประมวลผลกันครับ ซึ่งผมจะใช้โปรแกรมต่อไปนี้ในการทดสอบครับ • Quadrant Advanced และ AnTuTu Benchmark สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพในภาพรวม • Linpack for Android สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพของการประมวลผลของ CPU • 3DMark สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพการประมวลผลกราฟิก 3D • Vellamo Mobile Web Benchmark สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพของการทำงานด้านเว็บ • Geekbench สำหรับการวัดประสิทธิภาพการประมวลผลในภาพรวม โดยแบ่งเป็น Single-core และ Multi-core ผลที่ได้ก็ออกมาแบบนี้เลยครับ
ผลการวัดประสิทธิภาพของ i-mobile IQ9.1
ผลคะแนนการวัดประสิทธิภาพที่ได้ ผมตั้งข้อสังเกตว่าคะแนนค่อนข้างจะสูง แต่ไม่ถึงระดับ Quad-core แบบไฮเอนด์ แต่ก็เรียกว่าสูงกว่า Dual-core ทั่ว ๆ ไปพอสมควร แต่ดู ๆ แล้ว CPU MTK6589T จะทำคะแนนในส่วนของ CPU ได้ไม่ดีเท่ากับคะแนนในส่วนของ GPU ครับ ดู ๆ แต่จากผลคะแนน หากใช้งานทั่ว ๆ ไป ท่องเว็บ เล่น Social media รวมไปถึงการดูหนังฟังเพลง ผมว่าสเปกของฮาร์ดแวร์น่าจะแรงพอนะ
ทีนี้เรามาดูเรื่องการใช้งานกันบ้างว่า แล้ว i-mobile IQ9.1 Quad-core ราคาไม่ถึงหมื่นเนี่ย มันให้อะไรกับเราได้บ้าง โดยจะแบ่งเป็นส่วนของการใช้งานทั่วไป ทั้งความรู้สึกสัมผัส ความสะดวกในการหยิบจับใช้งาน รวมไปถึง User Interface พื้นฐาน และต่อด้วยพวก App ต่าง ๆ บริการต่าง ๆ ที่ทาง i-mobile เขาเตรียมไว้ในใน i-mobile IQ9.1 นี่กันครับ
ประสบการณ์ในการใช้งานทั่วไปของ i-mboile IQ9.1 ตัวเครื่องมีขนาดหน้าจอ 5.7 นิ้ว เลยน่าเป็นห่วงว่า แล้วมันจะขนาดใหญ่เกินใช้งานไปไหม? คงต้องขอบอกว่าสำหรับการใช้งานทั่ว ๆ ไปแบบมือเดียว คงจะยากครับ แม้ว่าการ Scroll หน้าจอไปซ้าย-ขวา หรือ บน-ล่าง จะทำด้วยมือข้างเดียวได้ แต่การจะเข้าถึงฟังก์ชันต่าง ๆ จุดต่าง ๆ บนหน้าจอ การใช้งานสองมือจะเหมาะสมกว่าเยอะมาก
การใช้งานด้วยมือข้างเดียว ไม่สะดวกเท่าที่ควรเท่าไหร่
หน้าจอแสดงผลขนาด 5.7 นิ้ว แต่ความละเอียดระดับ 1280x720 พิกเซล ทำให้ภาพไม่ถึงกับคมกริบ เนี้ยบเป๊ะแบบพวกระดับไฮเอนด์ แต่ว่าก็ไม่ถึงกับดูหยาบจนเกินไป จริง ๆ แล้วต้องบอกว่า สำหรับเหล่า สว. (สูงวัย) ทั้งหลาย ถ้าไม่ติดเรื่องตัวเครื่องใหญ่ พกพายุ่งยากหน่อย ผมว่าเขาน่าจะชอบนะ เพราะตัวอักษร ไอคอน อะไรต่อมิอะไรมันดูใหญ่ดี สัมผัสได้ง่าย
หน้าจอ 5.7 นิ้ว ความละเอียด HD อะไร ๆ ก็ดูใหญ่ดี
มาดูที่ User Interface พื้นฐานกันบ้างครับ โดยเบื้องต้นนั้น หน้าจอ Lock screen เป็นสไตล์ Android ทั่วไป ที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงครับ
หน้า Lock screen ของ i-mobile IQ9.1
หน้า Home screen ก็เป็นอะไรที่ออกแนว Android พื้นฐานอีกเช่นกัน ... จริง ๆ แล้ว i-mobile น่าจะเข้ามาปรับนิดหน่อย เพราะผมมองว่าการที่ Google ให้การใส่พวก Widget ไปบน Home screen ต้องทำผ่าน App tray มันยุ่งยากไป การแตะค้างที่หน้า Home screen แล้วเลือก Widget เลย มันสะดวกและง่ายกว่าเยอะน่ะ
หน้า Home screen ของ i-mobile IQ9.1
Notification bar ของ i-mobile IQ9.1 ก็เหมือนกับตระกูล IQ ตัวอื่น ๆ มีส่วนที่ยังคงเหมือนกับ Android ดั้งเดิม แต่ก็มีปรับแต่งขึ้นมาอีกนิดหน่อย ... แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือส่วนที่เป็นหน้าจอแสดงการแจ้งเตือนต่าง ๆ อีกส่วนเป็น Quick settings ครับ ใช้เปิดปิดฟังก์ชันต่าง ๆ ได้สะดวกดี
Notification bar ในส่วน Quick settings ของ i-mobile IQ9.1
ทีนี้มาดูในส่วนของ App tray กันบ้าง ก็เป็นสไตล์ของ Android แท้ ๆ อีกเช่นกัน ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากปกติที่เห็นได้ชัดเลย ซึ่งแม้จะไม่ได้มีอะไรเพิ่มเติมเข้ามา แต่ก็ไม่ได้ถึงกับจะไม่สะดวกสบายเลย เพราะระบบปฏิบัติการ Android เดี๋ยวนี้เขาก็พัฒนาไปไกลแล้วล่ะนะ
หน้า App tray ของ i-mobile IQ9.1
ทีนี้มาดู App และบริการที่ i-mobile เตรียมมาให้ใน i-mobile IQ9.1 กันบ้าง ในฐานะ House brand แล้ว i-mobile ก็ถือว่าให้พวก App และบริการมาพอสมควรอยู่ เมื่อเทียบกับราคา แต่ว่าไม่ใช่พวก App ที่พัฒนาเองหรอกนะครับ ก็มักจะเป็น App ที่เราสามารถหาดาวน์โหลดมาได้จาก Google Play แต่มองอีกแง่ ก็คือ i-mobile ช่วยให้เราได้ App ที่(เขาคิดว่า)น่าจะจำเป็นมาไว้ให้เลย ... ซึ่ง i-mobile เขาจัดมาให้แบบนี้ครับ
• Backup and Restore เอาไว้ใช้สำรองข้อมูล และเรียกข้อมูลมาใช้ในภายหลัง • Clean Master เป็น App ที่เอาไว้ใช้ลบพวกไฟล์ขยะออกจากเครื่อง ใช้เคลียร์หน่วยความจำ ใช้ Uninstall App ที่ไม่ต้องการแล้วออกจากเครื่องได้แบบง่าย ๆ • Content Cafe อันนี้เป็นบริการ wap ของไทย เอาไว้ดาวน์โหลดเนื้อหาต่าง ๆ จากบริการเหล่านั้น แต่ไม่แนะนำให้ใช้ (และผมเองก็ไม่เห็นด้วยกับที่ i-mobile เอามาติดตั้งในนี้) เพราะการดาวน์โหลดเนื้อหาพวกนี้ต้องเสียเงินครับ • ES File Explorer คือโปรแกรมบริหารจัดการไฟล์ภายในเครื่อง เทียบเคียงได้กับ My Computer หรือ Windows Explorer ของระบบปฏิบัติการ Windows ครับ • FM Radio คงไม่ต้องบอกว่าเอาไว้ทำอะไรนะครับ (ฮา) เอาไว้ฟังวิทยุครับ เพราะ i-mobile IQ9.1 มี FM Tuner ในตัว • i-mobile TSquare เป็นแผนที่ออนไลน์ พร้อมข้อมูลการจราจรในกรุงเทพมหานคร มีประโยชน์ตอนวางแผนการเดินทางในกรุงเทพมหานครนี่แหละ • K-Mobile Banking เป็น Mobile banking app ไม่มีประโยชน์อะไรกับเรา หากเราไม่ใช่ลูกค้า KBANK (ธนาคารกสิกรไทย) • Lazada เป็น App online shopping • ThinkFree Office เป็น App จัดการเอกสาร ไว้เปิดและแก้ไขเอกสารได้ • แล้วก็มีพวกเกมอย่าง Little Big City และ Littlest Pet Shop ให้เล่น
และ App อื่น ๆ อีกหลายตัวครับ ... ให้มาไล่รายการ เดี๋ยวจะยาวเกินไป ใครซื้อมาแล้วก็ลองไปเล่นดูเอาเองดีกว่า
ต่อกันด้วยเรื่องการใช้งานในด้านมัลติมีเดีย การเล่นเกม และการถ่ายรูปถ่ายวิดีโอครับ ซึ่งโดยสเปกแล้ว แม้ว่าจะไม่ได้ใช้ CPU/GPU ระดับไฮเอนด์สุด ๆ แต่ที่ i-mobile เลือกมาใช้ ก็ยังนับว่าเป็น Quad-core ที่มีประสิทธิภาพในระดับหนึ่ง และอ้างอิงจากสเปกแล้ว ก็สามารถใช้งานดูหนังระดับ Full HD 1080p ได้ ถ่ายวิดีโอระดับ 1080p ก็ได้ และคะแนนที่ได้จากการทดสอบด้วยโปรแกรม Benchmark ต่าง ๆ ก็แสดงให้เห็นถึงคะแนนด้าน 3D ที่ค่อนข้างโอเคอยู่ทีเดียว (แม้จะไม่สูงมาก) ฉะนั้น เราต้องพิสูจน์ว่าเป็นยังไงด้วยการรีวิวกันครับ
การใช้งาน i-mobile IQ9.1 ดูหนังฟังเพลง อย่างที่ผมบอกนะครับ สเปกของ CPU ที่ i-mobile IQ9.1 ใช้นั้น มีประสิทธิภาพมากพอที่จะถอดรหัสวิดีโอความละเอียด 1080p ได้สบาย ๆ ดังนั้น การดูหนัง Full HD บนนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอะไร หน้าจอแสดงผลขนาด 5.7 นิ้ว IPS LCD ของ i-mobile IQ9.1 ก็ให้ความใหญ่เต็มตา ชัดเจนดี มีมุมมองที่กว้าง ไม่รู้สึกว่าสีสันเพี้ยนไป
ดูคลิป 1080p บน i-mobile IQ9.1
การรับชม ก็สมกับสเปกดีครับ ลื่นไหล ไม่กระตุกเลย เสียงที่ได้จากลำโพงนับว่าฟังดูดีเลยทีเดียว มีน้ำเสียงที่นวล เพราะ แสดงรายละเอียดทั้งย่านต่ำ สูงได้ดี แต่จุดด้อยหลัง ๆ คือลำโพงให้เสียงที่ค่อนข้างเบาไปเสียหน่อย ถ้าดังกว่านี้อีกสักหน่อยก็แจ่มเลยทีเดียว
ทดสอบฟังผ่านหูฟัง คุณภาพถือว่าใช้ได้ คือฟังแล้วไม่รู้สึกว่าอะไรขาด อะไรเกิน แต่เสียงที่ได้ค่อนข้างคลุมเครือนิด ๆ ย่านเสียงยังแยกจากกันไม่ชัดเจนนัก ทำให้ขาดเสน่ห์ด้านมิติไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าไม่น่าฟังแต่อย่างไร ถ้าฟังด้วยระดับเสียงที่เบาลงจะได้ยินเสียงที่เคลียร์มากขึ้น IQ9.1 นี้มีระบบขยายเสียงที่ค่อนข้างดังมาก (แต่ลำโพงกลับเบาไปซะงั้น) ควรระวังในการปรับระดับเสียงเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดกับหูและอุปกรณ์หูฟังของคุณ
โดยสรุปแล้ว ถือว่าด้านคุณภาพเสียงนี่ i-mobile IQ9.1 ทำได้โอเค แต่ก็ยังไม่ถึงกับดีมาก ยังมีจุดให้ปรับปรุงให้ดีขึ้นได้อยู่นั่นเอง
ลองเอา i-mobile IQ9.1 มาเล่นเกมดูบ้างนะครับ แน่นอนว่าเกมที่ผมนำมาใช้ทดสอบ ต้องเป็น Asphalt 8: Airborne ครับ เพราะเป็นเกมที่ดึงเอาพลังในการประมวลผลกราฟิก 3D มาอย่างเต็มที่เลยทีเดียว ทีนี้ก็ต้องดูว่า แล้ว i-mobile IQ9.1 จะสามารถเล่นเกมนี้ได้ที่ความละเอียดระดับไหน
Asphalt 8: Airborne บน i-mobile IQ9.1 กราฟิกระดับ High
Asphalt 8: Airborne บน i-mobile IQ9.1 กราฟิกระดับ High
เอามาลองเล่นดู พบว่าสเปกระดับนี้ สามารถเลือกปรับคุณภาพของกราฟิกของเกมให้ไปอยู่ที่ระดับสูงสุดได้ (High) ได้รายละเอียดของกราฟิก และ เอฟเฟกต์ต่าง ๆ ครบเครื่องเลย แต่แลกมาด้วยอาการกระตุกแบบสุด ๆ เช่นกันครับ หรือให้พูดง่าย ๆ ก็คือ ไม่เหมาะสำหรับการเล่นเกมที่ระดับนี้
Asphalt 8: Airborne บน i-mobile IQ9.1 กราฟิกระดับ Medium
ทีนี้ลองใหม่ ปรับลงมาระดับกลาง (Medium) ดูบ้าง พบว่า คุณภาพของกราฟิกไม่ได้ลดลงไปมากนัก เอฟเฟกต์หายไปบ้าง แต่ก็ยังรู้สึกว่าโอเคอยู่ ได้ภาพที่สวยงาม อาการกระตุกลดน้อยลง แม้จะยังรู้สึกได้ แต่ก็ไม่ถึงกับทำให้ประสบการณ์การเล่นแย่นัก ถ้าจะเล่นจริง ๆ ผมว่าเน้นเอากราฟิกสวย ก็ใช้คุณภาพกราฟิกระดับนี้ได้ แต่หากจะให้เกมลื่นไหล ไม่กระตุกจริง ๆ คงต้องปรับไปที่ระดับ Low ครับ
เผื่อใครไม่สังเกต ความแตกต่างระหว่างคุณภาพระดับ High กับ Medium ของเกมนี้ หลัก ๆ เป็นพวกเอฟเฟกต์เบลอเวลาอัดไนโตร หรือตอนชนกัน และพวกเอฟเฟ็กต์ที่ทำให้เหมือนมีแสงตกกระทบกระจายบนหน้าจอกล้อง (แบบที่เห็นในรูปตัวอย่างตอนผมเล่นด้วยคุณภาพกราฟิกระดับ High)
ลองใช้ i-mobile IQ9.1 มาถ่ายรูปและถ่ายวิดีโอดูบ้าง ด้วยความเป็น House brand เลยไม่น่าแปลกใจที่ i-mobile จะเลือกใช้ User Interface ที่อิงตามสไตล์ของ Android มาใช้ ... ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นตัวเดียวกับที่ Pure Android ใช้นะ มันเป็นตัวที่มีการปรับเปลี่ยน User Interface แล้ว เพียงแต่ว่า หน้าตา มันไม่ได้ถูกตกแต่งให้สวยงามแบบแบรนด์อื่น ๆ เขาเท่านั้นเอง ... แต่ก็มีลูกเล่นที่พอตัว และใช้งานได้ไม่ยากครับ
User Interface กล้องของ i-mobile IQ9.1
จากการลองใช้งาน หากสภาพแสงภายนอกมีความสว่างดี และไม่ได้วูบวาบอะไร ก็ต้องบอกว่าใช้งานได้สบาย ๆ ครับ แต่หากเป็นสภาพแสงน้อย หรือ มีจุดที่สว่างจ้าและมืดมาก ๆ ทำให้ต้องมีการปรับชดเชยแสงอัตโนมัติบ่อย ๆ เราจะรู้สึกได้เลยว่าหน่วยประมวลผลนั้นพยายามจะปรับระดับแสงอย่างเต็มที่ และทำให้ภาพกระตุกพอสมควรเลยทีเดียว ทีนี้ ลองมาดูคุณภาพของภาพถ่ายกันบ้างว่าเป็นยังไงนะครับ
ภาพถ่ายที่ได้ ก็ถือว่าโอเคทีเดียวครับ สมกับสเปกเซ็นเซอร์ 13 ล้านพิกเซล และแม้ว่ารูปที่เห็นนี่ผมจะถ่ายที่ 18 ล้านพิกเซลก็จริง แต่จริงๆ แล้ว มันคือการใช้ซอฟต์แวร์ปรับขึ้นเท่านั้น เวลาถ่ายรูปจริงๆ ผมแนะนำว่าใช้แค่ 13 ล้านพิกเซลเต็มที่ก็พอแล้วนะครับ ถ้าสภาพแสงอำนวย ผมว่ากล้องของ i-mobile IQ9.1 นี่ก็สามารถถ่ายได้สบายๆ ครับ คุณภาพของภาพถ่ายที่ได้ค่อนข้างจะ OK เลย สีสันที่ได้ ถือว่าสมจริง แต่ว่าเวลาถ่ายภาพในสภาพแสงจ้า ๆ หน่อย แสงที่ได้จะดูโอเวอร์ไปหน่อยนะ แต่โชคดีที่ i-mobile IQ9.1 นี่มีคุณสมบัติ Tap-to-Focus ที่ปรับได้ทั้งโฟกัสของภาพและปรับ Exposure ในตัวเลย
มาดูการถ่ายวิดีโอกันบ้าง ... ความสามารถของเจ้านี่คือ ถ่ายได้ความละเอียดสูงสุด 1080p เลย และคุณภาพที่ได้ก็พอสมควรอยู่ ความสามารถ Tap-to-Focus ที่ปรับได้ทั้งโฟกัสและ Exposure ก็ทำให้การถ่ายวิดีโอทำได้ง่ายอยู่ และเมื่ออยู่ในโหมดถ่ายวิดีโอแล้ว
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น