สวัสดีเพื่อนๆชาว TechXcite วันนี้มาพบกับรีวิว HTC One M8 เรือธงจากค่าย HTC ส่งตรงจากใต้หวัน ภายใต้นิยาม Simple, Beautiful, Brilliant ที่พึ่งเปิดตัวไปได้ไม่นาน งั้นเราอย่ารอช้าให้เสียเวลา เราไปดูกันเลยดีกว่าว่ามันจะเจ๋งขนาดไหน!!!!
Design : HTC One M8
เอาหล่ะ! อย่างแรกเรามาเริ่มกันที่ดีไซน์กันก่อนดีกว่า สำหรับหน้าตาของ HTC One M8 มองแวบแรกอาจจะไม่ค่อยแตกต่างจาก HTC One M7 ที่เป็นรุ่นก่อนหน้านี้สักเท่าไหร่ แต่พอได้ลองสัมผัสแล้ว ขอบอกว่าอยากจะเป็นเจ้าของเลยทีเดียวครับ
สำหรับ HTC One M8 ได้เพิ่มขนาดหน้าจอเป็น 5 นิ้ว (จากตัวเก่าที่มีหน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว) Super LCD 3 ความละเอียด Full HD 1080p หน้าจอใช้กระจก Gorilla Glass 3 ซึ่งสามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี น้ำหนักของตัวเครื่อง 160 กรัม ก็ตีไปประมาณขีดครึ่ง (หนักกว่าเดิมนิ้ดดดนึง แต่พอถือจริงๆแทบไม่รู้สึกว่ามันหนักขึ้นเลยหล่ะ )
สำหรับตัวเครื่องวัสดุเป็นโลหะขัดเงา จะใช้วัสดุโลหะ 2 ชิ้นมาประกบกันเป็นตัวเครื่องทำให้ส่วนประกอบเกือบจะทั้งหมดของ HTC One M8 นี้เป็นโลหะไปซะ 90% อันนี้ก็เป็นจุดเด่นของ HTC ที่ตัวเครื่องทำมาจากโลหะ ทำให้ดูหรูหราตามสไตล์ของ HTC เค้านั่นแหละ :P
ด้านหน้า : มีช่องลำโพงสำหรับสนทนา ,กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และด้านล่างเป็นลำโพงคู่ Boomsound
ด้านขวา : จะมีช่องใส่ MicroSD card และปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง
ด้านซ้าย : มีช่องใส่ซิมแบบ Nano sim
ด้านบน : มีปุ่ม Power เปิด/ปิดเครื่อง หรือ ล็อค/ปลดล็อคหน้าจอ และจะมีแถบ IR Blaster หรือ Infraredremote ซึ่งส่วนนี้เราสามารถใช้แทนรีโมททีวีได้ รวมทั้งยังสั่งงานกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆได้อีกด้วย
ด้านล่าง : ช่องเสียบ MicroUSB และ ช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม.
ด้านหลัง : มีกล้องหลัง 2 ตัว ซึ่งแต่ละตัวมีความละเอียด 4 ล้านพิกเซล และข้างๆจะมีไฟแฟลซคู่ ที่เค้าเรียกกันว่า Dual LED Flash นั่นเอง
มาดูส่วนสเปคของ HTC One M8 กันบ้างดีกว่า ครั้งนี้ HTC One M8 ได้อัพเกรด CPU เป็น Snapdragon 801 Quadcore Krait 2.5 GHz , GPU Adreno 330 และ RAM 2GB ส่วนหน่วยความจำตัวเครื่องให้มา 16GB สามารถเพิ่ม MicroSD card ได้สูงสุดถึง 128 GB มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 4.4 KitKat ด้านแบตเตอรี่ความจุให้มา 2,600 mAh
การใช้งาน HTC One M8
สำหรับ HTC One M8 ตัวนี้ ต้องบอกเลยว่ามีฟังก์ชันให้เล่นเยอะแยะมากมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Motion Launcher ที่สามารถปลดล็อคหน้าจอหรือเข้าสู่เมนูลัดได้โดยไม่ต้องเสียเวลาไปกดปุ่ม Power ให้เสียเวลา หรือจะบอกว่าเป็นการถนอมปุ่ม Power ก็ว่าได้ :P เพียงแค่ลากนิ้วบนหน้าจอจากล่างขึ้นบนจะเป็นการปลดล็อคหน้าจอ หรือจะเคาะหน้าจอสองครั้งเพื่อเปิดหน้าจอ (แต่ยังไม่ปลดล็อค) ลากนิ้วจากซ้ายไปขวาจะเป็นการเข้าสู่ BlinkFeedเป็นต้น โดยเราจะสามารถเข้าไปกำหนดค่าเองได้ด้วยนะเออ :)
นอกจากนี้ HTC One M8 ยังมีระบบ Extreme Power Saving Mode เป็นโหมดประหยัดพลังงานที่ช่วยให้เราสามารถใช้งานมือถือต่อได้นานยิ่งขึ้น เช่น เมื่อแบตฯเหลืออยู่เพียง 10% พอเราปรับเป็นโหมด Extreme Power Saving Mode สามารถใช้งานได้ต่ออีกกว่า 30 ชั่วโมง เชียวหล่ะ :)
และจุดเด่นอีกส่วนที่ถ้าไม่พูดถึงคงจะไม่ได้แล้วหล่ะ! นั่นก็คือ Boomsound นั่นเองงง ทาง HTC ภูมิใจเสนอมาก เค้าบอกว่าเสียงจะดังขึ้นกว่าเดิม 25% แถมเสียงใสขึ้นด้วยนะเออ! หลังจากที่ลองมาฟังเสียงแล้ว ก็...เอ้อ!!! เสียงใสจริงๆด้วย :P
มาพูดถึงเรื่องกล้องของ HTC One M8 กันบ้างดีกว่า
สำหรับกล้องหน้าของ HTC One M8 มีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล มาพร้อมเลนส์ที่กว้างขึ้นทำให้เก็บภาพได้กว้างกว่าเดิม เหมาะสำหรับการถ่ายรูปภาพ Selfie ที่กำลังเป็นที่นิยมในตอนนี้เลยหล่ะ :)
ภาพจากกล้องหน้า HTC One M8 (แสงปกติ)
ภาพจากกล้องหน้า HTC One M8 (แสงน้อย)
มาพูดถึงเรื่องกล้องหลังกันบ้าง ซึ่งครั้งนี้มีกล้องถึง 2ตัว!! ให้มาทำไมตั้งสองตัว ??? สำหรับกล้องตัวบนสุดจะเป็นกล้องที่เอาไว้จับความลึกของภาพ มันสามารถคำนวณความลึกของภาพทำให้ภาพถ่ายของเราเป็นภาพกึ่ง 3 มิติได้ ซึ่งนี้เป็นจุดเด่นของเจ้าตัวนี้เลย สำหรับกล้องหลังความละเอียดคือ 4 ล้านพิกเซลแบบ Ultrapixel ซึ่งครั้งนี้ทาง HTC ได้ปรับปรุงความเร็วในการโฟกัสให้เร็วขึ้น คือใช้เวลาเพียง 0.3 วินาทีในการถ่ายภาพ นอกจากนั้นยังมี Dual LED Flash ที่ช่วยให้การถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ดีอีกด้วย :)
ตอนนี้มาดูโหมดกล้องของ HTC One M8 กัน ซึ่งจะมี 6 โหมดได้แก่ Camera คือการถ่ายภาพนิ่งแบบปกติ ,Video คือการถ่ายภาพเคลื่อนไหว, Zoe camera คือการถ่ายภาพที่ช่วยให้เราสามารถถ่ายภาพนิ่งได้ 20 รูปพร้อมกับถ่ายวิดีโอ และยังสามารถใส่เพลงได้อีกด้วย, Selfie คือการถ่ายภาพตัวเองโดยการใช้กล้องหน้า, Dual capture คือการถ่ายกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมกัน, Pan 360 คือการถ่ายพาโนราม่า
เจ้า HTC One M8 มีฟังก์ชั่นในการแต่งภาพหลากหลายแบบ เหมาะสำหรับคนที่ชอบแต่งภาพแปลกๆ ไม่ซ้ำใคร
เมื่อเราถ่ายภาพเสร็จแล้ว เราสามารถปรับแต่งภาพได้อีกด้วย ซึ่งสามารถแต่งได้หลายแบบอย่างเช่น แบบ UFOCUS,Forgrounder และ Seasons มาดูกันเลยว่าเป็นยังไง
UFOCUS คือการเลือกจุดโฟกัสวัตถุตามต้องการ คือถ้าเราต้องการโฟกัสจุดไหนก็แตะไปที่จุดนั้น
ภาพแรกเป็นภาพปกติที่ไม่ได้มีการแต่งอะไรเลย
ภาพนี้เราจะแตะสุนัขสีน้ำตาล ภาพสุนัขสีน้ำตาลจะถูกกำหนดให้ชัด ส่วนพื้นที่อื่นจะเบลอ
http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=2&news_id=35026&page=1
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น