ช่วง
วันที่ 10–14 กันยายนที่ผ่านไป ช่างเป็นสัปดาห์ที่หลายคนอาจนึกไม่ถึงว่า
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชนิดแบบว่าเอาให้ฟื้นกันชัดๆ สักทีจะเห็น
จากทั้งแบงก์ชาติสหรัฐฯ ที่เรียกกันติดปากสั้นๆ ว่า “เฟด”
และเห็นจากบริษัทแอปเปิล อินคอร์ปอเรชั่น เจ้าของสมาร์ทโฟนชื่อก้องโลกอย่าง
iPhone ไม่ว่าจะโดยบังเอิญหรือไม่ แต่พลังและแรงส่งของทั้ง 2
เหตุการณ์ภายในสัปดาห์เดียวกัน
สามารถดูได้จากอารมณ์กระทิงวิ่งชนดัชนีหุ้นดาวโจนส์
และขวิดส่งราคาหุ้นแอปเปิลพุ่งไปแล้ว...
![](https://lh3.googleusercontent.com/blogger_img_proxy/AEn0k_tGU1KVETT90WxulW11gMLsh0jah2isyw-wQkVLWIDJwhRf1uW2yFTmJrS3jFgJvaDX_393CXSb3LVa_4oLu9tq6yiJJVrfOhpF4llPImIjHiuXs-lPSdCvaEnW7nxiWK5qDUy6kKo=s0-d)
12 กันยายน ที่ย่านซิลิคอนวัลเลย์
เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่นั่น ทิม คุก
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทแอปเปิล อินคอร์ปอเรชั่น
เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีชื่อว่า iPhone 5
ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าสร้างกระแสและทำเงินได้เหนือความคาดหมาย
ทั้งในแง่ลูกค้าชาวอเมริกันที่อยู่ในสังคมแห่งการบริโภคสูงมาก
รวมถึงบรรดาสาวก iPhone ทั่วโลก ลองคิดอย่างผิวๆ กับราคาเครื่องต่ำสุดที่
199 ดอลลาร์ ก็ตกประมาณ 6,368 บาท ด้วยราคานี้คูณกับยอดจอง 5
ล้านเครื่องภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังการเปิดตัว ก็เท่ากับรับไปเนื้อๆ แล้ว
31,840 ล้านบาท แต่ยอดสั่งจองได้รับการปรับเพิ่มขึ้นเป็น 26
ล้านเครื่องภายในสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายนนี้ ก็เท่ากับว่าขายได้มากถึง
165,568 ล้านบาท ยิ่งไปกว่านั้น นักวิเคราะห์ทั้งจากวงการไอที
สื่อชั้นนำด้านเศรษฐกิจ ตลาดทุน และตลาดหุ้นสหรัฐฯ
มั่นใจไปแล้วว่าจากวันที่ 12 กันยายนถึง 31 ธันวาคมนี้ iPhone 5
จะขายได้ถึง 149 ล้านเครื่อง ก็เท่ากับกวาดเงินไปตั้งแต่ 948,832 ล้านบาท
(คิดจากราคารุ่นต่ำสุด 199 ดอลลาร์ หรือ 6,638 บาท) ถึง 1.9 ล้านล้านบาท
(คิดจากราคารุ่นสูงสุด 399 ดอลลาร์ หรือ 12,768 บาท)
เลยทำให้ส่งท้ายวันศุกร์ที่ 14 กันยายน (หลังเปิดตัว iPhone 5 ผ่านไป 2
วันพอดี)
ราคาหุ้นของบริษัทแอปเปิลพุ่งขึ้นปิดด้วยสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับ
ตั้งแต่เข้าซื้อในตลาดหุ้นสหรัฐฯ พระเจ้าช่วย! หุ้นอะไรแพงทะลุ 22,121
บาทต่อหุ้น เท่ากับราคาเพิ่มขึ้น 71% ตั้งแต่ต้นปีนี้
ที่น่าสนใจอยู่ตรงนี้ครับ ยอดขาย iPhone สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ใน 3
เดือนสุดท้ายปีนี้ได้ถึง 0.5% ให้เข้าใจกันง่ายๆ ต่อไป คือ iPhone 5
สามารถสร้างรายได้ให้สหรัฐอเมริกาถึงปีละ 12,800 ล้านดอลลาร์ หรือ 409,600
ล้านบาท!
![](https://lh3.googleusercontent.com/blogger_img_proxy/AEn0k_uXh7jydI1fJQPcGG8d4PLqRVOXw42CnDjv18cIoGAKf6woP0EhGGxZC4JD9kjHmvdFitkio04mA1QKfJGg92deqsEYb5ek7V1g9156vBBOwriyJB5QFZJSnfmOF18kYSoTUiTiRZc=s0-d)
13 กันยายน ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี
เมืองหลวงของสหรัฐอเมริกา ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ นายเบน เบอร์นันกี
นั่งแถลงด้วยตัวเองถึงผลการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินอีกครั้งหนึ่ง
ในหน้าประวัติศาสตร์โลก
เริ่มตั้งแต่ตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ 0–0.25% ต่อเนื่อง
ซึ่งคาดว่ากว่าจะได้เห็นปรับขึ้นคงต้องช่วงกลางปี 2558 เป็นต้นไป
ถัดมาคือ ประกาศปรับเพิ่มอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ
หรือจีดีพีที่มีขนาดใหญ่อันดับ 1 ของโลกในปีหน้าเป็น 2.5–3.0% และในปี
2557 เพิ่มอีกเป็น 3.8% ก็แสดงว่ามีสัญญาณขยายตัวต่อเนื่อง
แต่ที่น่าสนใจมากที่สุด คือ เฟดเลือกใช้มาตรการซื้อคืนตราสารทุนครั้งที่ 3
หรือที่เรียกกันติดปากสั้นๆ ว่า QE 3
โดยครั้งนี้เฟดเลือกซื้อคืนตราสารทุนอสังหาริมทรัพย์เป็นประจำทุกเดือนๆ ละ
40,000 ล้านดอลลาร์ หรือเท่ากับมีเงินใหม่ๆ
เข้ามาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจสหรัฐฯ มากขึ้นถึงเดือนละ 1.28 ล้านล้านบาท
(เป็นครึ่งหนึ่งของปีงบประมาณประเทศไทยปี 2556 ที่ตั้งไว้ 2 ล้านล้านบาท
แต่ใช้กันทั้ง 12 เดือน หรือ 1 ปี)
โดยเริ่มซื้อทันทีในเดือนนี้และซื้อไปเรื่อยๆ ไม่มีวันสิ้นสุด
หรือจนกว่าสัญญาณฟื้นตัวเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะชัดเจนกว่าที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้
เพียงแค่ประกาศประเด็นสุดท้ายที่ทุกคนรอคอยกับมาตรการ QE 3
ก็ส่งผลเกิดภาวะกระดิงดุวิ่งเข้าชนดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก
สหรัฐฯ ขึ้นปิดสูงสุดในรอบเฉียด 5 ปีที่ระดับ 13,593 เมื่อวันศุกร์ที่ 14
กันยายนที่ผ่านไป
เพียง
แค่ 2 เหตุการณ์สำคัญของ iPhone 5 เปิดตัวในวันที่ 12 กันยายน
พร้อมยอดจองไปจนถึงยอดขาย และ 13 กันยายน ที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ
ประกาศใช้มาตรการ QE 3
ซึ่งก็ไม่ต่างกับการเปิดตัวมาตรการใหม่ที่รอคอยในวงการเศรษฐกิจตลาดทุนของ
โลก เฉพาะตัวเลขของเม็ดเงินที่เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจสหรัฐฯ
และส่งผลทางอ้อมไปทั่วโลกจากทั้ง 2
เหตุการณ์ภายในสัปดาห์เดียวกันในครั้งนี้ก็นับกันไม่ไหวแล้ว แต่ยังเหลืออีก
1 เหตุการณ์สำคัญของคนอเมริกัน
และคนทั้งโลกซึ่งจะเกิดขึ้นในวันอังคารที่ 6 พฤศจิกายนนี้ คือ
วันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 45 ซึ่งจะเป็นตัวกระตุ้นสุดท้าย
และส่งท้ายปีนี้กับเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลกอย่างแน่นอน
ผมถึงได้ตั้งสูตรข้างบนไว้ว่า iPhone 5 + QE 3 + 45th Mr. President ครับ
บัญชา ชุมชัยเวทย์ ไทยรัฐออนไลน์
ที่มา
IT PLAZA:
iPhone 5 + QE 3 + 45th Mr.President! |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น