เปิดตัวแล้ว ! สรุปข้อมูลงานเปิดตัว iPhone5 พร้อมข้อมูล Spec ราคา iPhone 5 และวันที่คาดว่าจะวางจำหน่ายในไทย [13 ก.ย.55][13-กันยายน-2555] สิ้นสุดการรอคอยเป็นเวลาเกือบ 1 ปี กับการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่แห่งปี 2012 ที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ไอโฟน 5 (iPhone 5) ซึ่ง เปิดตัวไปแล้วอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2555 ที่ผ่านมา เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 13 กันยายน ตามเวลาในประเทศไทยครับ ซึ่งในงานนี้ นอกจากจะมีการเปิดตัว ไอโฟน5 (iPhone5) ที่ถือว่า เป็นดาวเด่นของงานแล้ว ยังมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ line อื่นๆ ด้วยเช่นกัน ซึ่งได้แก่ iPod Touch Gen 5 และ iPod Nano โฉมใหม่ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการฟังเพลง ก่อนจะเข้าสู่บทสรุป ข้อมูลงานเปิดตัว ไอโฟน 5 (iPhone 5) ทั้งในเรื่องของ สเปค ไอโฟน 5 (iPhone 5) ราคา iphone 5 ไอโฟน 5 และการออกแบบ ไอโฟน 5 (iPhone 5) รวมไปถึงวันวางจำหน่าย ไอโฟน 5 (iPhone 5) เรามาชมภาพบรรยากาศก่อนเริ่มงานเปิดตัว ไอโฟน 5 (iPhone 5) กันก่อน โดยงานเปิดตัว ไอโฟน 5 (iPhone 5) นั้น จัดขึ้นที่ Yerba Buena Center for the Arts รัฐซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ครับ สถานที่จัดงาน Yerba Buena Center for the Arts บรรดาสื่อมวลชนที่รอรายงานบรรยากาศ งานเปิดตัว ไอโฟน 5 (iphone 5) บรรยากาศด้านในฮอลล์ครับ มีสื่อมวลชนจากหลายแขนง มารวมตัวกันอย่างมากมายเลยทีเดียว "ไอโฟน 5 (iPhone 5) เปิดตัวแล้ว! มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้น 4 นิ้ว ชิปเซ็ท Apple A6 แบบ Quad-core Processor กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และรองรับ iOS 6" และด้านบนนี้ก็คือ สเปค ไอโฟน 5 (iphone 5) อย่างเป็นทางการ ที่มีข้อมูล ทั้งในเรื่องของ สเปค ไอโฟน 5 (iPhone 5) และการออกแบบ ไอโฟน 5 (iPhone 5) ตรงกับข่าวก่อนหน้าทุกประการครับ แม้ว่า ไอโฟน 5 (iphone 5) จะมีการออกแบบที่คล้ายๆ เดิม เหมือน iPhone 4S และ iPhone 4 ก็ตาม แต่ตัวบอดี้ ไอโฟน 5 (iphone 5) นั้น มีความบางลงกว่ารุ่นก่อน และหน้าจอยาวขึ้นครับ มาดูบทความ สรุปข้อมูล ไอโฟน 5 (iPhone 5) พร้อมฟีเจอร์เด่นบน ไอโฟน 5 (iphone 5) กันว่า มีความโดดเด่นในด้านใดบ้างไอโฟน 5 (iphone 5) ดีกว่า iPhone 4S ตรงไหน มาดูพร้อมๆ กันเลยครับ iPhone 5 กับหน้าจอที่ยาวขึ้น อย่างที่เกริ่นไปในตอนต้นว่า ถึงแม้ ไอโฟน 5 (iPhone 5) จะมีบอดี้ที่คล้ายกับ iPhone 4S แต่เมื่อเจาะลึกแล้ว จะพบว่า ไอโฟน 5 (iPhone 5) นั้น มีตัวเครื่องที่ยาวกว่า บางกว่า และน้ำหนักเบากว่า โดย ไอโฟน 5 (iphone 5) นั้น มีความบางเพียง 7.6 มิลลิเมตร (iPhone 4S หนา 9.3 มิลลิเมตร) ซึ่งบางกว่า iPhone 4S 18% ครับ ส่วนน้ำหนัก ไอโฟน 5 (iphone 5) อยู่ที่ 112 กรัม เบากว่า iPhone 4S 20% iPhone 5 กับกับกรอบด้านหลังแบบ Two-tone ให้ความรู้สึกที่ดูสวยงาม มาดูกันที่ส่วนประกอบด้านหลังกันบ้าง จะเห็นว่า กรอบด้านหลัง ไอโฟน 5 (iphone 5) มีการออกแบบที่เปลี่ยนไป โดยทำมาจาก anodized aluminium ซึ่งเป็นวัสดุเดียวกับ MacBook นั่นเอง ส่วนด้านบน และด้านล่างนั้น สำหรับเครื่อง ไอโฟน 5 (iPhone 5) สีขาว ทำมาจาก ceramic glass ส่วน ไอโฟน 5 (iPhone 5) สีดำ ทำมาจาก pigmented glass ครับ (ซึ่งจุดนี้ ผมยังไม่ทราบว่า ทั้ง 2 วัสดุนี้ ต่างกันอย่างไร) นอกจากนี้ Apple ยังได้ระบุว่า วัสดุที่มาผลิต ไอโฟน 5 (iPhone 5) อย่าง anodized aluminium เป็นวัสดุแบบบรีไซเคิล และไม่เป็นอันตรายต่อธรรมชาติ โดยยึดหลักมาตรฐาน BFR-free และ PVC-free ที่ทาง Apple มั่นใจว่า ไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อมอย่างแน่นอน **ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่า กฏหมายของต่างประเทศจะค่อนข้างเข้มงวดเรื่องการผลิตโดยใช้วัสดุที่เป็น อันตรายต่อสิ่งแวดล้อมครับ ซึ่งก่อนหน้านั้น Apple เคยมีปัญหากับ EPEAT หรือองค์กรที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานสิ่งแวดล้อม และเคยถอนตัวจาก EPEAT ทำให้เกิดการต่อต้านจากผู้ใช้งาน ถึงขนาดที่ว่า จะไม่ซื้อสินค้าของ Apple อีกต่อไป ทำให้ Apple เองต้องตัดสินใจกลับเข้าสู่กระบวนการของ EPEAT อีกครั้ง ซึ่งจะต้องส่งวัสดุให้ตรวจสอบด้วยว่า ผ่านมาตรฐานด้วยหรือไม่ ไมโครโฟนบน ไอโฟน 5 (iPhone 5) มีทั้งหมด 3 จุดครับ คือ ด้านบน ด้านล่าง และด้านหลัง ระหว่างเลนส์กล้องกับไฟแฟลช ส่วนลำโพงสำหรับสนทนาในด้านบนนั้น ยังเป็นแบบตัดเสียงรบกวนจากภายนอกอีกด้วย หน้าจอขนาด 4 นิ้วแบบ Retina display ไม่ใช่แค่จอใหญ่ แต่ชัดขึ้นด้วย มากันที่หน้าจอกันบ้างครับ ไอโฟน 5 (iPhone 5) นั้น มีหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้น จากเดิม 3.5 นิ้ว เป็น 4 นิ้ว แบบ Retina display ความละเอียด 640 x 1136 พิกเซล ส่วนความหนาแน่นพิกเซลต่อนิ้วนั้น อยู่ที่ 326 ppi ครับ นอกจากนี้ หน้าจอของ ไอโฟน 5 (iphone5) นั้น ยังใช้เทคโนโลยีแบบใหม่ ที่มีชื่อว่า Touch technology โดย รวมเลเยอร์ของหน้าจอ และระบบสัมผัส ไว้ในเลเยอร์เดียวกันครับ ซึ่ง Touch technology นั้น นอกจากจะทำให้หน้าจอบางลงแล้ว ยังช่วยทำให้สีสันของหน้าจอ ชัดขึ้นอีกด้วย ส่วนไอคอนบนหน้าจอ เป็นแบบ 5 แถวครับ และไม่มีไอคอนของ YouTube อีกต่อไปครับ ชิปเซ็ท Apple A6 ประมวลผลเร็วกว่าเดิม 2 เท่า นอกจากหน้าจอ ไอโฟน 5 (iPhone 5) จะมีขนาดใหญ่ขึ้นแล้ว ในส่วนของระบบประมวลนั้น ยังเร็วขึ้นกว่าเดิมเท่าตัวเลยทีเดียวครับ โดย ไอโฟน 5 (iPhone 5) นั้น ใช้ชิปเซ็ท Apple A6 ซึ่งเป็นชิปเซ็ทแบบ Quad-core Processor ที่มีขนาดเล็กกว่า Apple A5 ถึง 22% แต่ช่วยทำให้การประมวลผลเร็วขึ้นกว่า ชิปเซ็ท Apple A5 ถึง 2 เท่าเลยทีเดียว นอกจากนี้ ไม่เพียงแค่ซีพียู จะเร็วขึ้นเท่าตัวแล้ว ระบบประมวลผลภาพกราฟฟิค ยังเร็วขึ้นกว่าเดิม 2 เท่าอีกด้วยครับ กล้อง iSight ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมโหมดการถ่ายภาพแบบ Panorama น่าเสียดายที่ความละเอียดของกล้องบน ไอโฟน 5 (iPhone 5) นั้น ไม่ได้มีความละเอียดสูงถึง 12 ล้านพิกเซล ตามข่าวลือ แต่กลับมีความละเอียดเท่าเดิมที่ 8 ล้านพิกเซลครับ โดยพื้นผิวที่ครอบอยู่บนตัวเลนส์นั้น เป็น Sapphire Crystal ซึ่งมีความแข็งแรงเป็นอันดับ 2 รองจากเพชร ฉะนั้น ใครที่กลัวว่า เลนส์ด้านหลังจะเป็นรอยง่าย ให้หมดกังวลในจุดนี้ไปได้เลย นอกจากนี้ กล้องบน ไอโฟน 5 (iPhone 5) นั้น ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ นั่นก็คือ ความสามารถในการถ่ายภาพแบบพาโนราม่าได้นั่นเอง ซึ่งสามารถถ่ายได้สูงสุด 240 องศา และความละเอียดของภาพสูงสุดอยู่ที่ 28 ล้านพิกเซลครับ ไม่เพียงแค่กล้อง iSight บน ไอโฟน 5 (iphone5) จะสามารถถ่ายภาพแบบพาโนราม่าได้แล้ว ยังชัตเตอร์ได้เร็วขึ้น 40% และปรับปรุงประสิทธิภาพในการถ่ายภาพในที่แสงน้อย (Low light) ได้ดีขึ้น และลด noise ของภาพอีกด้วย ตัวอย่างภาพจากกล้อง ไอโฟน 5 (iphone5) ครับ สำหรับการบันทึกภาพเคลื่อนไหวนั้น กล้องด้านหลัง มีความละเอียดสูงสุดที่ 1080p มีฟีเจอร์ลดการสั่นของภาพ มีระบบ Face detection และสามารถถ่ายภาพนิ่ง ไปพร้อมๆ กับการบันทึกวิดีโอได้ ส่วนกล้องด้านหน้า FaceTime นั้น ความละเอียดสูงสุดที่ 720p สามารถใช้งานผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือได้ครับ Dock connector ขนาดเล็กลงเหลือ 8-pin เปิดตัว Lightning to 30-pin Adapter หัวแปลงพอร์ตสำหรับ ไอโฟน 5 (iPhone 5) เนื่องจากตัวเครื่อง ไอโฟน 5 (iPhone 5) มีขนาดบางลงกว่าเดิม ทำให้พอร์ตการเชื่อมต่อในส่วนอื่นๆ สามารถปรับขนาดให้เล็กลงตามลงมาด้วย อย่างแรกก็คือ ช่อง Dock connector สำหรับชาร์ตแบตเตอรี่ และถ่ายโอนข้อมูลครับ ได้มีการปรับขนาดลง จากเดิม 30-pin เหลือแค่ 8-pin เท่านั้น ซึ่งสาย data cable นั้น มีชื่อเรียกว่า Lightning connector และเล็กกว่า connector แบบเก่าถึง 80% เลยทีเดียว Lightning to 30-pin Adapter ส่วนใครที่ใช้ Dock connector แบบเดิมนั้น ไม่ต้องเสียใจ หรือโยนทิ้งไปนะครับ เพราะว่า Apple ได้เปิดตัว Adapter หรือหัวแปลง 30-pin (Lightning to 30-pin Adapter) สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมกับ ไอโฟน 5 (iPhone 5) แต่อุปกรณ์ตัวนี้ ขายแยกนะครับ ไม่ได้มีแถมมาให้ในกล่อง ตกอันละ $29 หรือประมาณ 900 บาท นอกจากนี้ ช่องเสียบหูฟัง ยังย้ายจากด้านบนตัวเครื่อง มาอยู่ด้านล่างตัวเครื่องอีกด้วยครับ ไอโฟน 5 (iPhone 5) รองรับเครือข่าย 4G LTE แล้ว เป็นฟีเจอร์ที่มาช้ากว่าคู่แข่งมากเหลือเกิน กับการรองรับเครือข่าย 4G LTE ที่เพิ่งมีบน ไอโฟน 5 (iPhone 5) เป็นรุ่นแรก นอกจากนี้ Apple ยังได้เผยว่า ไอโฟน5 (iPhone5) นั้น รองรับเครือข่าย 4G LTE ทั่วโลกครับ ทั้ง HSPA, HSPA+ และ DC-HSDPA ซึ่งใช้ชิปแบบ Single chip ทั้งในส่วนของ Voice และ data ครับ สามารถรองรับเครือข่ายได้ทั้งในสหรัฐอเมริกา แคนาดา เอเชีย (บางประเทศ) ออสเตรเลีย และยุโรป ส่วนระบบ Wi-Fi นั้น เป็นแบบ Dual-channel 2.4 และ 5GHz ให้ความเร็วสูงสุดที่ 150Mbps ครับ มาดูกันที่แบตเตอรี่กันบ้างครับ แม้ว่า ไอโฟน 5 (iPhone 5) นั้น จะใช้ซีพียูแบบ Quad-core Processor และรองรับเครือข่าย 4G LTE ซึ่งทั้ง 2 ฟังก์ชั่นนี้ ถือว่า เป็นส่วนที่ทำให้แบตเตอรี่ลดลงอย่างรวดเร็ว แต่ Apple สามารถทำให้ ไอโฟน 5 (iPhone 5) รองรับการใช้งานได้สูงสุด 8 ชั่วโมงเลยทีเดียว ไอโฟน 5 (iPhone 5) ใช้ nano-SIM card แทน micro-SIM card ตามคาดครับ กับการเปลี่ยนขนาดของซิมการ์ดใหม่ เพื่อให้รองรับกับตัวเครื่องที่บางลง โดย ไอโฟน 5 (iPhone 5) ใช้ nano-SIM card ที่เล็กลงกว่าเดิมถึง 44% ซึ่งช่วยทำให้ประหยัดเนื้อที่ภายในตัวเครื่องอีกด้วยครับ EarPods หูฟังแบบใหม่ สำหรับ EarPods นั้น ได้ถูกออกแบบใหม่ให้เข้ากับหูของเราได้ทุกสภาพ และทุกรูปแบบครับ โดย Apple ให้เหตุผลว่า ปกติแล้ว หูของคนเรา มักจะมีลักษณะที่ไม่เหมือนกัน คล้ายกับลายนิ้วมือที่ต้องเป็นของใครของมัน ฉะนั้น จึงได้พยายามหาวิธีการผลิตหูฟังแบบใหม่ ที่สามารถเข้ากับหูได้ทุกคนครับ ซึ่ง Apple ได้ทำการทดสอบ หูฟัง EarPods รุ่นต้นแบบ กับหูของผู้ทำการทดสอบกว่า 1,000 คน พบว่า สามารถใส่ได้พอดี ไม่เลื่อนหลุด และ ยังได้คุณภาพของเสียงที่เท่ากันอีกด้วย นอกจากนี้ หูฟัง EarPods นั้น ยังได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ทนทานต่อทุกการใช้งานครับ แถมยังมีคุณสมบัติในการป้องกันเหงื่อและน้ำได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่ง Apple รับประกันว่า ไม่ว่าจะเคลื่อนไหวไปในท่าไหน หูฟัง EarPods ก็ไม่หลุดอย่างแน่นอนครับ iphone 5 เปรียบเทียบกับ iPhone 4s รูปลักษณ์เหมือนหรือต่างกันอย่างไร ? เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้เห็นภาพความเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เราจึงสรุปข้อมูลเปรียบเทียบ ระหว่าง ไอโฟน 5 (iPhone 5) กับ ไอโฟน 4S (iPhone 4S) ให้ดูในแบบตารางง่ายๆ กันว่าแตกต่างกันอย่างไรบ้างครับ
และก็เป็นไปตามคาดครับ กับระบบปฎิบัติการ ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่มาพร้อมการเปิดตัว iPhone ทุกปี และแน่นอนว่า ไอโฟน 5 (iPhone 5) ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 6 อย่างแน่นอนแล้ว ซึ่งถ้าใครได้ดูงานเปิดตัว iOS 6 ที่ผ่านมาคงต้องบอกว่าน่าใช้งานมากครับ เรามาสรุปความสามารถของระบบปฏิบัติการ iOS 6 ที่จะถูกใช้บน ไอโฟน 5 (iPhone 5) กันคร่าวๆ ได้ดังนี้ครับ - เพิ่มความสามารถให้กับ Siri ให้รองรับคำสั่งเพิ่มมากขึ้น - เปลี่ยนจาก Google Maps มาใช้ Apple Maps แทน - สามารถใช้งาน FaceTime ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือได้แล้ว - เพิ่มแอพพลิเคชั่น Passbook แหล่งรวม boarding pass, การ์ดของขวัญ และคูปองส่วนลด ในที่เดียว - ในส่วนของอีเมล ได้เพิ่ม VIP list สำหรับรวมอีเมลที่สำคัญ เช่น อีเมลจากที่ทำงาน ที่บ้าน คุณพ่อคุณแม่ สำหรับฟีเจอร์บน iOS 6 แบบเต็มๆ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่ ครับ สรุปเปรียบเทียบสเปค ไอโฟน 5 (iPhone 5) และ ไอโฟน 4S (iPhone 4S) จากข้อมูลทั้งหมดนี้ เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น ลองมาดูกันว่า ถ้าหากเปรียบเทียบคุณสมบัติ หรือสเปค ไอโฟน 5 (iPhone 5) กับ ไอโฟน 4S (iPhone 4S) แล้ว จะมีความแตกต่างมากน้อยขนาดไหน และสเปค ไอโฟน 5 (iPhone 5) ในจุดใดบ้าง ที่ดูโดดเด่นกว่า ไอโฟน 4S (iPhone 4S) ในรูปแบบของตารางครับ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||
แหล่งที่มา : |
วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555
เปิดตัวแล้ว ! สรุปข้อมูลงานเปิดตัว iPhone5 พร้อมข้อมูล Spec ราคา iPhone 5
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น